บทวิเคราะห์ (Research)

ราคาทองคำวันนี้ (08 ส.ค.) ขยับขึ้นมาเคลื่อนไหวบริเวณ 3,390 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้แรงหนุนจากมาตรการภาษีนำเข้าทองคำของสหรัฐฯ ที่เพิ่มความผันผวนในตลาดโลก โดย Financial Times รายงานว่า สหรัฐฯ เริ่มเก็บภาษีนำเข้าทองคำแท่งน้ำหนัก 1 กิโลกรัมและ 100 ออนซ์ ซึ่งกระทบต่อสวิตเซอร์แลนด์ ศูนย์กลางการหลอมทองคำที่ใหญ่ที่สุดของโลก คิดเป็นสัดส่วนราว 1 ใน 3 ของการผลิตทั่วโลก มาตรการนี้ทำให้ต้นทุนการส่งทองคำไปตลาด COMEX สูงขึ้น ส่งผลให้ธนาคารต่างๆ ที่ส่วนใหญ่ถือสถานะขาย (Short Positions) ในสัญญา EFP ซึ่งหมายถึงการถือสถานะขาย (Short Position) ในสัญญาฟิวเจอร์สทองคำ ควบคู่ไปกับการซื้อทองคำกายภาพ (Physical Gold) “จำเป็นต้องปิดสถานะขาย (Short Positions) ในสัญญา EFP” เพื่อเลี่ยงการส่งมอบทองคำจริงเข้าสู่สหรัฐ ด้วยการทำธุรกรรมฝั่งตรงข้าม จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ราคาสัญญาฟิวเจอร์สทองคำตลาด COMEX ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก จนส่วนต่าง (Spread) ระหว่างสัญญาฟิวเจอร์สทองคำตลาด COMEX กับ Gold Spot กว้างขึ้นจากระดับปกติ อย่างไรก็ดี ราคาทองคำยังเผชิญแรงกดดันจากความหวังว่าความตึงเครียดในยุโรปอาจผ่อนคลาย จากการรายงานของ Reuters ระบุว่า ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ยอมรับว่าเส้นตายวันที่ 8 ส.ค. ให้รัสเซียเดินหน้าสู่การหยุดยิงในยูเครน “อาจไม่ตายตัว” โดยระบุว่า “มันขึ้นอยู่กับเขา (ปูติน)” และแสดงความ “ผิดหวังอย่างมาก” ต่อปูติน แต่พร้อมพบกับผู้นำรัสเซีย แม้ไม่พบกับ ปธน.โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ซึ่งขัดแย้งกับรายงานก่อนหน้าที่อ้างว่าทรัมป์จะพบปูตินก็ต่อเมื่อปูตินยอมพบเซเลนสกีเท่านั้น ท่าทีดังกล่าวเพิ่มความหวังว่าการเจรจาอาจดำเนินต่อ ลดความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ และจำกัดแรงซื้อทองคำในระยะสั้น