เราคาดว่ากำไรสุทธิของ SCGP ใน 4Q67F จะอยู่ที่ 45 ล้านบาท (-96% YoY, -92% QoQ) ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ IPO เพราะรับรู้ผลขาดทุนจาก Fajar เต็มไตรมาส, หยุดการผลิตใน Fibrous unit, และ ผลขาดทุนจากกลุ่มกระดาษรีไซเคิลเพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่า SCGP จะตั้งเป้าปีนี้เอาไว้ในเชิงค่อนข้างบวก แต่ความท้าทายในเชิงโครงสร้างจากภาวะอุปทานล้นตลาด และ อุปสงค์ที่อ่อนแอในจีน และ ยุโรปยังคงอยู่ เรายังคงคำแนะนำขาย โดยปรับลดราคาเป้าหมายลงมาอยู่ที่ 16.70 บาท จาก 25.00 บาท เพื่อสะท้อนถึง EV/EBITDA ที่ลดลง และ การปรับประมาณการกำไรลง เพราะเรามองว่ามีความเป็นไปได้จำกัดที่จะมีปัจจัยกระตุ้นให้เกิดการ re-rate ท่ามกลางแรงกดดันในอุตสาหกรร