บริษัทรายงานผลการดำเนินงาน 1Q68 มีกำไรสุทธิ 1,091 ล้านบาท (-33.7%QoQ,+155.1%YoY) โดยมีรายได้ 38,500 ล้านบาท (-5.7%YoY,-0.3%YoY) แบ่งเป็นยอดขาย 1.กลุ่มบรรจุภัณฑ์ (PSC) ยอดขายลดลง 10% ทั้งจากกลุ่มแก้วและกระป๋อง เนื่องมาจากราคาวัตถุดิบลดลง และการปรับราคาขาย (แต่ GPM ปรับตัวดีขึ้น) 2.กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (CSC) ยอดขาย เพิ่มขึ้น 2% จากธุรกิจอาหารและสินค้าอุปโภค ผ่านการออกสินค้าใหม่ที่หลากหลาย (GPM ปรับตัวดีขึ้น) 3.กลุ่มเวชภัณฑ์และเทคนิค (H&TSC) ยอดขายโตได้เล็กน้อย 0.1% จากกลุ่มความงาม (โดยเฉพาะโบท็อก) และเครื่องมือแพทย์ (GPM ปรับตัวดีขึ้นจาก Product Mix) และ 4.กลุ่มค้าปลีกสมัยใหม่ (MSC) ยอดขาย เพิ่มขึ้น 1.8% มี SSG +2.1% แต่ด้านกำไรลดลง เนื่องมาจากผลของ Sales Mix และรายได้ค่าเช่าลดลง ส่งผลให้ GPM ในงวดอยู่ที่ระดับ 20.4% ดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วง 1Q67 ที่ระดับ 20.0% ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร อยู่ที่ระดับ 20.5% ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ 1Q67 ที่ระดับ 20.4% (ไม่รวมรายการปรับปรุงและค่าใช้จ่ายอื่น) ซึ่งในงวดมีการ divest ธุรกิจ Thai Scandic Steel ออกไป ส่งผลให้มีค่าใช้จ่าย One-Time Expense 176 ล้านบาท โดยเป็น Cash จำนวน 42 ล้านบาท