BJC รายงานกำไรสุทธิ 1Q68 ที่ระดับ 1.09 พันล้านบาท เติบโตกว่า 155.1% YoY โดยมีปัจจัยสำคัญอยู่ที่ในช่วง 1Q67 มีการบันทึกรายการพิเศษที่เกิดขึ้นครั้งเดียวอย่าง ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกว่า 659 ล้านบาท แต่มีการบันทึกขาดทุนครั้งเดียวจำนวน 176 ล้านบาทจากการหยุดดำเนินการธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักอย่าง บริษัท ไทย-สแกนดิค สตีล จำกัด (TSS) ที่ดำเนินธุรกิจสายส่งไฟฟ้า ส่วนรายได้รวมใน 1Q68 อยู่ที่ 3.85 หมื่นล้านบาท หดตัวเล็กน้อยที่ 0.3% YoY โดยเป็นผลมาจากการหดตัวของธุรกิจ บรรจุภัณฑ์ที่หดตัว 10.1% YoY มาอยู่ที่ 5.7 พันล้านบาท ผลจากความต้องการสินค้าที่ลดลงทั้งในกลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์,กลุ่มส่งออกและเครื่องดื่มทั่วไปกระทบต่อบรรจุภัณฑ์ แก้ว และในกลุ่มกาแฟกระป๋องและเครื่องดื่มอัดลมที่กระทบต่อกลุ่มกระป๋อง ส่วนกลุ่มรายได้ในกลุ่มธุรกิจที่เหลือเติบโตเพียงเล็กน้อยโดยกลุ่มธุรกิจ Modern Trade เติบโต 1.8% มา อยู่ที่ 2.55 หมื่นล้านบาท จาก SSSG ที่ขยายตัว 2.1% YoY ผลจากการเติบโตของยอดขายสินค้าอาหารสดและผลจากการปรับปรุงสาขา 3 แห่ง (จากแผนทั้งปี 17 แห่ง) รวมถึงมี การเปิดสาขา BigC ที่หัวหินและ BigC Mini 12 สาขา ส่วนธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคยอดขายเติบโต 2.4% YoY สู่ระดับ 5.67 พันล้านบาทจากการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายและ การเติบโตของกลุ่มกระดาษและเครื่องใช้ส่วนตัว ด้าน Gross Profit Margin ของบริษัทอยู่ที่ 20.4% เพิ่มขึ้นจากการบริหารจัดการวัตถุดิบและต้นทุนพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ