เรากลับมามองแนวโน้มของ CBG เป็นบวกจากความตึงเครียดในข้อพิพาทระหว่างไทย-กัมพูชาผ่อนคลายลง ซึ่งส่งผลบวกต่อรายได้ราว 15% และการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่อเมียนมา ซึ่ง CBG มีรายได้ราว 6-7% จากที่นั่น ขณะที่ เราคาดกำไร 2Q68F ที่ 805 ล้านบาท นำโดยการเติบโตในประเทศเป็นหลัก ประสิทธิภาพด้านต้นทุน และการขยายส่วนแบ่งการตลาด แม้ว่ายอดขายในต่างประเทศอาจลดลงก็ตาม ส่วน margin ของ CBG ที่ดีขึ้นในระยะยาว จะผลักดันจากโรงงาน JV แห่งใหม่ในย่างกุ้งและพนมเปญ ดังนั้น เราปรับเพิ่มคำแนะนำ CBG ขึ้นเป็น “ซื้อ” ประเมินราคาเป้าหมายใหม่ที่ 61.50 บาท อิงจาก risk/reward ดูน่าสนใจยิ่งขึ้น