ยอดขายขนมขบเคี้ยวไทย ปี 2568 คาดขยายตัว 2% ชะลอลงจากปี 2567 ที่โต 6% เนื่องจากเผชิญปัจจัยบวกที่แผ่วลงจากปี 2567 ตามภาคการท่องเที่ยวไทยที่เติบโตช้า ส่งผลต่อการบริโภคขนมขบเคี้ยวในระหว่างเดินทางท่องเที่ยวและสังสรรค์ให้เพิ่มขึ้นไม่มาก ขณะที่ต้นทุนการผลิตหลักอย่างราคาวัตถุดิบในบางรายการสำคัญอย่างมันฝรั่ง น้ำตาล เนย มีแนวโน้มราคาปรับเพิ่มขึ้น
กลุ่มขนมขบเคี้ยวรสเค็มหรือเผ็ด ซึ่งเป็นตลาดหลักจะโตได้ไม่มากที่ราว 1.4% ในปี 2568 ตามจำนวนผู้ออกเดินทางท่องเที่ยวในไทยที่มีแนวโน้มเติบโตช้าลงจากฐานที่สูงในปี 2567 และจำนวนผู้ใช้การสตรีมวิดีโอเพื่อรับชมภาพยนตร์ รายการทีวี วิดีโอ YouTube และการถ่ายทอดสด เช่น กีฬา เพลง เป็นต้น มีแนวโน้มเติบโตแต่คงชะลอลง รวมถึงจำนวนอีเวนต์ใหญ่ที่ลดลงเหลือเพียงกีฬาซีเกมส์ช่วงปลายปี เทียบกับปี 2567 ที่มีทั้งกีฬาโอลิมปิกและฟุตบอลยูโร ทำให้ภาพรวมการบริโภคขนมกลุ่มนี้โตได้ไม่มาก
ส่วนยอดขายขนมขบเคี้ยวกลุ่มที่โตได้สูงกว่าภาพรวมตลาดในปี 2568 คือ กลุ่มขนมปังกรอบและบิสกิตที่โต 2.7% แรงหนุนจากความเป็นเมือง ที่มีความเร่งรีบในการบริโภคเพื่อรองท้องหรือทดแทนมื้ออาหารหลัก และจำนวนร้านค้าปลีกสมัยใหม่ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะไฮเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อที่มีจำนวนสาขาเติบโตต่อเนื่อง ตอบโจทย์การบริโภคของคนเมือง และกลุ่มขนมขบเคี้ยวที่ทำจากสาหร่าย/เนื้อสัตว์/ธัญพืช คาดโต 2.4% จากเทรนด์การบริโภคที่ดูแลสุขภาพมากขึ้น เช่น บริโภคโปรตีนมากขึ้น รวมถึงการบริโภคโซเดียมที่ลดลง
บทความที่เกี่ยวข้อง