มูลค่าตลาดขนส่งผู้โดยสารทางถนนโดยรวมในปี 2568-69 มีแนวโน้มขยายตัว 2.5%YoY และ 2.0%YoY ตามลำดับ โดยได้รับอานิสงส์จากจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง แบ่งเป็นเส้นทางระหว่างจังหวัด (90% ของตลาด) คาดจะทยอยฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปด้วยอัตรา 2.4%YoY และ 2.0%YoY ตามลำดับ ส่วนเส้นทางในกรุงเทพฯ และปริมณฑล (10% ของตลาด) คาดขยายตัวที่ 4.0%YoY และ 2.5%YoY ตามลำดับ
อัตราการทำกำไรของธุรกิจในปี 2568-69 มีแนวโน้มถูกกดดันจาก 1) ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ยังอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด-19 และ 2) ค่าแรงงานที่มีโอกาสปรับขึ้นตามนโยบายการขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำ รวมถึงยังต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ขณะที่ผู้ประกอบการอาจส่งผ่านต้นทุนไปยังผู้บริโภคได้เพียงบางส่วน เนื่องจากราคาค่าโดยสารรถสาธารณะยังถูกควบคุมโดยภาครัฐ อย่างไรก็ตาม ประเมินว่ากลุ่มผู้ประกอบการที่ใช้รถโดยสาร EV ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากกระแสการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการสนับสนุนจากภาครัฐ
ในระยะข้างหน้า ผู้บริโภคจะตระหนักถึงการเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ดังนั้น ผู้ประกอบการฯ ควรพิจารณานำแนวคิดด้าน ESG มาผนวกรวมกับกลยุทธ์ของธุรกิจ เพื่อพัฒนาบริการที่สอดคล้องกับเทรนด์ดังกล่าว เช่น การเปลี่ยนไปใช้รถโดยสาร EV การใช้พลังงานทางเลือกอย่าง CNG หรือ ไบโอดีเซล
ในระยะข้างหน้า ผู้บริโภคจะตระหนักถึงการเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ดังนั้น ผู้ประกอบการฯ ควรพิจารณานำแนวคิดด้าน ESG มาผนวกรวมกับกลยุทธ์ของธุรกิจ เพื่อพัฒนาบริการที่สอดคล้องกับเทรนด์ดังกล่าว เช่น การเปลี่ยนไปใช้รถโดยสาร EV การใช้พลังงานทางเลือกอย่าง CNG หรือ ไบโอดีเซล
บทความที่เกี่ยวข้อง