แนวโน้มอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ไทย (ฉบับ update)

โดย K-Research

แนวโน้มอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ไทย (ฉบับ update)

โดย K-Research
20250530-Article-Kresearch-1200x660
Industry Analysis and Outlook : No.33 - 30 พฤษภาคม 2568

เกศินี ศศิธร เจ้าหน้าที่วิจัยอาวุโส

ปี 2568 ยอดขายของธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ปี คาดจะอยู่ที่ 2.26 แสนล้านบาท โต 2.0% ชะลอจากปีก่อนที่ 4.5% จากปัจจัยกดดันทั้งด้านกำลังซื้อของคนในประเทศที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีแนวโน้มหดตัวลง โดยน้ำอัดลมและน้ำดื่มบรรจุขวดที่มีส่วนแบ่งตลาดรวมกันกว่า 55% ของยอดขายธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ทั้งหมด คาดว่าจะขยายตัว 2.0% และ 2.6% ชะลอลลงจากปี 2567 

ขณะที่เครื่องดื่มฟังก์ชันนัลคาดยังโต 5.5% สูงกว่าภาพรวมตลาด และน่าจะมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่ม จาก 5% ในปี 2563 เพิ่มเป็น 7% ในปี 2568 โดยมีปัจจัยหนุนจากการใส่ใจสุขภาพของผู้บริโภคและความต้องการเครื่องดื่มที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่เจาะจงขึ้น

ปี 2568 มูลค่าการส่งออกเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ของไทยปี คาดจะอยู่ที่ 1,744 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โต 1.0% จากปีก่อน โดยตลาดส่งออกหลักยังเป็นกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งมีสัดส่วนรวมกันกว่า 67% มีแนวโน้มชะลอตัวลง ตามปัจจัยกดดันทางด้านสงครามทางการค้า และปัญหาเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ ขณะที่การส่งออกไปยังตลาดศักยภาพใหม่ โดยเฉพาะมาเลเซียยังเติบโตต่อเนื่อง

น้ำดื่มบรรจุขวดและเครื่องดื่มชูกำลัง คือสินค้าส่งออกศักยภาพที่มีแนวโน้มเติบโตดีในตลาดหลัก CLMV แต่เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ของไทยเสี่ยงแข่งขันรุนแรงขึ้น ทั้งกับสินค้าท้องถิ่นและสินค้านำเข้าจากคู่แข่งโดยเฉพาะจีน ที่มีราคาถูกกว่า

Disclaimers รายงานวิจัยนี้จัดทำโดย บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด (KResearch) เพื่อเผยแพร่เป็นการทั่วไป โดยอาศัยแหล่งข้อมูลสาธารณะ หรือ ข้อมูลที่เชื่อว่ามีความน่าเชื่อถือที่ปรากฏขณะจัดทำ ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ในแต่ละขณะเวลา ทั้งนี้ KResearch มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ ความเหมาะสม ความครบถ้วนสมบูรณ์ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลดังกล่าว และไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อชี้ชวน เสนอแนะ ให้คำแนะนำ หรือจูงใจในการตัดสินใจเพื่อดำเนินการใดๆ แต่อย่างใด ดังนั้น ท่านควรศึกษาข้อมูลด้วยความระมัดระวังและใช้วิจารณญาณอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจใดๆ KResearch จะไม่รับผิดในความเสียหายใดที่เกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว 

ข้อมูลใดๆ ที่ปรากฎในรายงานวิจัยนี้ถือเป็นทรัพย์สินของ KResearch และ/หรือบุคคลที่สาม (แล้วแต่กรณี) การนำข้อมูลดังกล่าว (ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน) ไปใช้ต้องแสดงข้อความถึงสิทธิความเป็นเจ้าของแก่ KResearch และ/หรือบุคคลที่สาม (แล้วแต่กรณี) หรือแหล่งที่มาของข้อมูลนั้นๆ ทั้งนี้ ท่านจะไม่ทำซ้ำ ปรับปรุง ดัดแปลง แก้ไข ส่งต่อ เผยแพร่ หรือกระทำในลักษณะใดๆ เพื่อวัตถุประสงค์ในทางการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาตล่วงหน้า เป็นลายลักษณ์อักษรจาก KResearch และ/หรือบุคคลที่สาม (แล้วแต่กรณี)

  บทความที่เกี่ยวข้อง