ในปี 2569 คาดว่า มูลค่าตลาดเชื้อเพลิงขยะ Refuse Derived Fuel (RDF) จะสูงขึ้นราว 15.1% แตะ 1.45 หมื่นล้านบาท จากการสนับสนุนของภาครัฐในด้านการจัดการกับปัญหาขยะ และการเปลี่ยนถ่ายไปสู่พลังงานทดแทนซึ่งหนุนการขยายตัวของตลาดธุรกิจเชื้อเพลิงขยะ RDF
ในปี 2569 64% ของ RDF ทั้งหมดจะถูกใช้ในการผลิตไฟฟ้า โดยความต้องการ RDF ในภาคไฟฟ้า คาดว่า จะมีการเติบโตราว 16.8% จากปริมาณการใช้ RDF ที่มีการเร่งตัวจากปีก่อนหน้าเนื่องจากในปี 2569 จะมีโรงไฟฟ้าขยะกำลังการผลิตรวม 70 เมกะวัตต์ ที่ถึงกำหนดจ่ายไฟเข้าระบบ อีกทั้งอัตราการรับซื้อไฟฟ้าจากขยะนั้นอยู่ที่ราว 3.66-5.78 บาท/หน่วย ซึ่งสูงกว่าพลังงานแสงอาทิตย์และลมที่มีอัตรารับซื้ออยู่ที่ 2.22 บาท/หน่วย และ 3.10 บาท/หน่วย ตามลำดับ อัตรารับซื้อที่สูงกว่านี้ได้ดึงดูดผู้ประกอบการมาลงทุนในโรงไฟฟ้าขยะชุมชนมากขึ้น
ในขณะที่อีก 36% ของ RDF จะถูกใช้สำหรับผลิตพลังงานความร้อนในภาคอุตสาหกรรมการผลิต โดยความต้องการ RDF ในปี 2569 จะเพิ่มขึ้น 10.8% จากการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานทดแทนและการลดการพึ่งพาถ่านหินจากมาตรการ CBAM ที่เก็บค่าธรรมเนียมสินค้าที่ปล่อยคาร์บอนสูง ทำให้อุตสาหกรรมการผลิตที่ปล่อยคาร์บอนเยอะ เช่น ปูนซีเมนต์ จำเป็นต้องปรับตัวเพื่อลดการปล่อยคาร์บอน
บทความที่เกี่ยวข้อง