มูลค่าตลาดเครื่องสำอางโดยรวมในปี 2568-69 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องที่ 13.2%YoY และ 12.3%YoY ตามลำดับ แบ่งเป็นตลาดในประเทศ 79% และตลาดส่งออกอีก 21% โดยคาดว่า ในปี 2568-69 มูลค่าตลาดเครื่อง สำอางในประเทศ จะขยายตัวต่อเนื่องที่ 13.3%YoY และ 12.8%YoY ตามลำดับ ซึ่งจะเข้าสู่ระดับที่สูงกว่าก่อนเกิดวิกฤติโควิด ขณะที่มูลค่าส่งออกที่คาดว่าขยายตัวต่อเนื่องที่ 12.8%YoY และ 10.3%YoY ตามลำดับ 

ความเสี่ยงหลักของธุรกิจขายเครื่องสำอาง คือ การแข่งขันที่อยู่ในระดับสูง เนื่องจากตลาดเครื่องสำอางเป็นตลาดใหญ่ มีมูลค่าตลาดสูง การเข้า-ออก ธุรกิจทำได้ง่าย ทำให้มีผู้ประกอบการเข้ามาในธุรกิจนี้มากขึ้น สะท้อนได้จากจำนวนผู้ประกอบการในปี 2567 ที่เพิ่มขึ้นจากปี 2562 กว่าเท่าตัว และอาจ จะตามมาด้วย “สงครามราคา” จนอาจกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของผู้ประกอบการ นอกจากนี้ ธุรกิจต้องเผชิญความเสี่ยงอื่นๆ ได้แก่ ความเสี่ยงจากความล้าสมัยของสินค้า และปัญหาจากการเปลี่ยนผ่านความนิยมในระยะเวลาอันสั้น (Fast Beauty)

ตลาดเครื่องสำอางในประเทศอาจถูกตีตลาดจากเครื่องสำอางจีนรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะการแข่งขันจากการขายผ่านช่องทางออนไลน์โดยผู้ขายและบริษัทผู้ผลิตในจีนโดยตรง หลังสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนปะทุขึ้น โดยสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนตั้งแต่ต้นปี 2568 รวมเป็น 145% ก่อนที่ปรับลดเหลือ 30% เป็นการชั่วคราวเป็นเวลา 90 วัน ในช่วงกลางเดือน พ.ค. 2568