รายได้รวมของธุรกิจผลิตอัญมณีและเครื่องประดับในปี 2568-69 คาดว่าจะหดตัวที่ -1.8%YoY และ -2.2%YoY ตามลำดับ แบ่งเป็นตลาดส่งออก (75% ของยอดขายทั้งหมด) คาดว่าในปี 2568 และ 2569 จะหดตัว -1.1%YoY และ -1.9%YoY ตามลำดับ ส่วนตลาดในประเทศ (25% ของยอดขายทั้งหมด) ปี 2568-69 คาดว่าจะหดตัว -3.8%YoY และ -3.0%YoY ตามลำดับ
อัตรากำไรในปี 2568-69 แม้ผู้ประกอบการจะส่งผ่านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นบางส่วนไปยังผู้ซื้อได้ แต่อัตรากำไรจะถูกกดดันจากยอดขายที่อาจลดลงหากราคาสินค้ามีการเพิ่มขึ้นตามต้นทุนราคาทองที่อยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ ธุรกิจยังต้องเผชิญความเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ 1) การปรับขึ้นภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ (Reciprocal Tariffs) โดยสหรัฐฯ ได้ปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากไทยในอัตรา 19% และเริ่มใช้ในวันที่ 7 ส.ค. 2568 ซึ่งอาจกระทบต่อการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไปยังสหรัฐฯ 2) การถูกตีตลาดจากสินค้านำเข้าจากจีน และฮ่องกงที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามผลกระทบจากสงครามการค้า 3) การขาดแคลนแรงงานฝีมือทักษะสูงที่เชี่ยวชาญการเจียระไนพลอย 4) การขาดแคลนวัตถุดิบและความผันผวนของราคาวัตถุดิบสำคัญ 5) การแข็งค่าของเงินบาทอาจบั่นทอนความสามารถในการส่งออกอัญมณี และ 6) เทคโนโลยี Disruption เช่น 3D Printing
ในระยะข้างหน้าผู้ประกอบการสามารถต่อยอดสู่การผลิตอัญมณีที่มีความยั่งยืน โดยเฉพาะกลุ่ม Sustainable Jewellery เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการสังเคราะห์ ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงการใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างพลังงานแสงอาทิตย์
บทความที่เกี่ยวข้อง