ถ้าพูดถึงแอปที่มีคลิปวิดีโอสั้น ๆ ทุกคนจะคิดถึงแอปอะไรกัน ?? ...... 

คิดว่าคนส่วนใหญ่จะคิดถึง Tiktok เป็นอันดับแรกใช่ไหม? 
ใช่แล้ว Douyin หรือก็คือ Tiktok ในชื่อจีน คือชื่อที่คนจะนึกถึงก่อน เพราะเป็นผู้นำตลาดที่เน้นนำเสนอคลิปสั้นและโด่งดังไปทั่วโลก แต่จริง ๆ แล้วในจีนยังมีอีกหนึ่งบริษัทพัฒนาแอปคลิปสั้นที่น่าจับตาไม่แพ้กัน โดยแม้ว่าจำนวนผู้ใช้งานทั้งโลกอาจจะน้อยกว่า Douyin แต่หากนับแค่เฉพาะในจีนกลับมีผู้ใช้งานพอ ๆ กับ Douyin เลย อีกทั้งยังสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงในแบบของตัวเองอีกด้วย 

นั่นก็คือ บริษัทที่ชื่อว่า “Kuaishou Technology” (Kuaishou : ไคว้โสว่)  
บริษัทผู้พัฒนาแอปวีดีโอสั้นที่ไม่ได้พยายามจะแข่งในสนามเดียวกับ Douyin ตรง ๆ  
แต่เลือกจะโฟกัสกลุ่มผู้ใช้ที่ไม่เหมือนใคร และนั่นแหละ...คือจุดเริ่มต้นของความน่าสนใจของบริษัทนี้ !! 


Kuaishou เริ่มต้นในฐานะผู้พัฒนาแอปสำหรับแชร์ภาพ GIF เมื่อราวสิบปีก่อน ก่อนจะเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอที่เน้นผู้ใช้งานจากเมืองรอง เมืองชนบท หมู่บ้าน หรือชุมชนขนาดเล็กในจีน  
โดยถ้าใครเคยเห็นการ Live ขายของในไทย จริง ๆ  Kuaishou เนี่ยแหละคือต้นตำรับ จุดต่างสำคัญจากคู่แข่งคือ Kuaishou ไม่ได้เน้นให้ Content ดูเนี้ยบหรือเป๊ะเหมือนสื่อกระแสหลัก แต่ใช้ความจริงใจ ธรรมชาติ และเข้าถึงง่ายดึงดูดผู้ใช้งาน นี่จึงทำให้แพลตฟอร์มของ Kuaishou กลายเป็นเหมือนเวทีของคนธรรมดาทั่วไปที่อยากแชร์ชีวิต แชร์อาชีพ หรือแม้แต่ขายของผ่านการ Live Streaming 

ในมุมธุรกิจ Kuaishou ถือว่าเป็นบริษัทที่มีโครงสร้างรายได้ที่หลากหลาย โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากการโฆษณาออนไลน์ที่เติบโตเร็วขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะจากธุรกิจเกม และ E-Commerce (ที่คู่แข่งเจ้าอื่น ๆ ก็ยังต้องมาโฆษณาที่ Kuaishou) รองลงมาคือรายได้จาก Live Streaming ที่ผู้ชมสามารถให้ของขวัญหรือทิปกับ Creator ได้โดยตรงและ Kuaishou จะได้ส่วนแบ่งรายได้บางส่วน นอกจากนี้ Kuaishou ยังมีการทำ Platform ขายของออนไลน์เองคล้าย ๆ Shopee และ Lazada ในไทย โดยมีจุดแข็งเป็นการ Live สดขายสินค้าที่ช่วยดันให้บริษัทยังคงเติบโตได้แม้ต้องชนกับยักษ์ใหญ่อย่าง JD. com และ Douyin เองก็ตาม 

ล่าสุดในช่วงเทศกาล 618 ซึ่งเป็นแคมเปญลดราคาครั้งใหญ่ของจีน Kuaishou มียอดขายจากกลุ่มธุรกิจ SME โตขึ้นถึง 30% เมื่อเทียบกับปีก่อน ทั้งที่การแข่งขันในตลาด E-Commerce จีนถือว่าดุเดือดมาก สิ่งที่ทำให้บริษัทแข็งแรงขึ้นเรื่อย ๆ จึงไม่ใช่การแย่งส่วนแบ่งตลาดจากคนอื่น แต่คือการหาช่องทางใหม่ให้ตัวเองอยู่เสมอ และนั่นนำ Kuaishou ไปสู่การลงทุนครั้งใหญ่ในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI 

โดย Kuaishou พัฒนาโมเดล AI สร้างวิดีโอของตัวเองชื่อว่า “KlingAI” ซึ่งสามารถสร้างวิดีโอจากข้อความได้แบบอัตโนมัติ โดยโมเดลนี้ไม่ได้เพิ่งเริ่มต้น แต่ปัจจุบันสร้างรายได้ให้ Kuaishou ตกปีละเกือบ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเริ่มสร้างกำไรได้แล้ว  

ลูกค้าที่ใช้บริการ KlingAI เช่น Xiaomi หรือแม้แต่ AWS ของ Amazon เองก็ใช้เทคโนโลยีของ Kuaishou ในหลาย ๆ Solution โดยรายได้กว่า 70% มาจากตลาดต่างประเทศซึ่งถือว่าเหนือความคาดหมายของหลายฝ่าย  

สิ่งที่น่าสนใจคือการเติบโตดังกล่าวเกิดขึ้นโดยที่ Kuaishou ยังแทบไม่ได้เริ่มทำการตลาดจริงจังกับ KlingAI เลย !! นั่นแปลว่าโมเดลนี้ยังมีโอกาสโตได้อีกมาก หากวันหนึ่งบริษัทสามารถนำไปต่อยอดให้ใช้กับผู้ใช้ทั่วไปในระดับ Mass ได้ 

อีกมุมหนึ่งที่ทำให้ Kuaishou เป็นที่สนใจสำหรับนักลงทุน คือเรื่องของมูลค่าหุ้นที่ยังถือว่าไม่แพง หากเทียบกับศักยภาพในอนาคต  โดยหุ้น Kuaishou ปัจจุบันเทรดอยู่ที่ Forward P/E ประมาณ12 เท่า ซึ่งถือว่ายังต่ำเมื่อเทียบกับบริษัทเทคโนโลยีจีนรายอื่น และการเติบโตของบริษัทที่คาดว่ากำไรต่อหุ้นจะโตเฉลี่ย 20% ได้อีกอย่างน้อย 2-3 ปีข้างหน้า ที่สำคัญคือผู้บริหารเองก็แสดงความเชื่อมั่นผ่านการซื้อหุ้นคืนอย่างต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา คิดเป็นสัดส่วนราว 3.5% ของหุ้นทั้งหมด ซึ่งนักลงทุนสายคุณค่ามักมองว่าเป็นสัญญาณที่ดี 

ในภาพรวมแม้ Kuaishou อาจไม่ใช่บริษัทที่เกิดมาเพื่อเป็นเจ้าตลาด แต่ Kuaishou ถือเป็นบริษัทที่เข้าใจผู้ใช้ของตัวเองอย่างแท้จริง และกล้าที่จะลงมือทดลองสิ่งใหม่ ๆ โดยไม่ตามรอยใคร ทั้งการสร้าง community ที่เหนียวแน่น การบุก AI แบบเงียบ ๆ แต่ได้ผล และการมีฐานลูกค้าที่แตกต่างจากคู่แข่งในเมืองใหญ่ ทำให้ Kuaishou กลายเป็นหุ้นอีกตัวที่น่าจับตามองสำหรับคนที่มองหาการเติบโตในแบบที่ไม่เหมือนใคร 

ลงทุนในหุ้น Kuaishou ได้ง่ายๆ ผ่าน DR  ชื่อย่อหลักทรัพย์ KUAISH80 และถ้าอยากรู้จักบริษัทอื่น ๆ ที่มี DR เพิ่มเติม สามารถติดตามบทความความรู้การลงทุนได้ที่ Line Official บล. ดาโอ : @‌daolsec หรือ Facebook : http://www.facebook.com/daol.th


Disclaimer: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจในลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง การลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน  
Source: Bloomberg; Company Data, as of 03 Sep 2025